ข้าวมันไก่กับราคาน้ำมัน การเชื่อมโยงสุดปัญญาอ่อนของชาวโซเชียล

ผมเห็นประเด็นนี้มาสักพักละ ตั้งแต่สัปดาห์ก่อน คือประเด็นนี้เกิดขึ้นมานานละครับ จะกลับมาพร้อมช่วงราคาน้ำมันไทยเราปรับตัวถี่ทีไร มาทุกที เรื่อง

นิทานหลอกควาย ข้าวมันไก่สิงคโปร์

ข้าวมันไก่

ในความเป็นจริงนั้น ไทยเราเองนำเข้าน้ำมันดิบมาเพื่อกลั่นให้พอใช้เหลือจึงส่งออก



การที่ผู้ประกอบการบ้านเราไม่ใช่แค่เจ้าใดเจ้าหนึ่งอ้างอิงราคาตลาดสิงคโปร์ อันนี้ความเข้าใจพื้นฐานเลยคือ การกำหนดราคาเองต้องตั้งราคาเท่าไหร่ ถึงไม่ขาดทุนและเอาเปรียบผู้บริโภค

การอิงตลาดน้ำมันที่สิงคโปร์คือสิ่งที่ควรจะเป็นมากที่สุด และแถมทำให้ผู้ประกอบการเร่งพัฒนาศักยภาพแข่งกับต่างประเทศได้ด้วย เพราะโรงกลั่นที่นี่โรงเดียวก็มากกว่าโรงกลั่นบ้านเราแล้ว แถม ตลาดสิงคโปร์ไม่ใช่ราคาหน้าปั๊ม ไม่ใช่ราคาโรงกลั่นเดียวของสิงคโปร์ แต่เป็นตลาดที่ผู้ประกอบการหลายร้อยรายมาเทรดน้ำมันแข่งขันกัน หน่วยงานนั้นคือ Platt ไม่ว่าจะด้วยเรื่องราคา หรือความต้องการใช้ และการอิงราคาที่นี่ก็ไม่ใช่ไทยเราใช้ที่เดียว ประเทศที่มีโรงกลั่นก็ใช้แบบนี้ทั้งนั้น มาเลเซียที่เราชอบยกมาเทียบเค้าก็อิงราคาน้ำมันของสิงคโปร์ครับ แถมมีบวกค่าพรีเมียมเข้าไปเช่นกัน แต่เรียกไม่เหมือนกัน บ้านเค้าถ้าผมจำไม่ผิดเรียกว่า Alpha ส่วนต่างเพิ่มเติมคือคุณภาพพิเศษ สารเติมแต่งเจ้าไหนต่อเจ้าไหน อีกส่วนคือเรื่องผสมพลังงานทดแทนที่แต่ละประเทศก็ไม่เหมือนกัน ที่จะผลต่อปลายทางคือราคาขายหน้าปั๊ม อีกส่วนที่จะลืมไม่ได้คือ นโยบายทางภาษีของแต่ละประเทศ (บางประเทศอุดหนุนราคา บางประเทศไม่เก็บภาษี หรือ เก็บน้อยมากๆ)

ตลาดทองก็เช่นกัน เราขุดทองในประเทศได้เองทำไมเราต้องไปอิงตลาดทองไม่กำหนดราคาเองให้ถูกไปเลยดีกว่า

สรุปจากเรื่องนิทานข้าวมันไก่สิงคโปร์หลอกควาย คือเอามาเทียบกับไม่ได้

- ข้าวเรา ไก่เรา ไม่ได้นำเข้าจากต่างประเทศถึงเกือบ 90%

- ดังนั้นการจะตั้งราคามันจึงมีราคากลางมากำหนด จะได้ไม่กำหนดเองตามอำเภอใจ

- ไก่ดิบ ข้าวดิบ มีปรับลง ปรับขึ้นทุกวัน แต่ราคาข้าวมันไก่ไม่เคยปรับลง มีแต่ขึ้นหรือไม่ก็ลดปริมาณลง

ที่มา https://www.facebook.com/nongposamm/photos/a.1548159858783765/2887554158177655/