ลุงตู่ทุบโต๊ะ ปลด บอร์ด ปตท. เป็นแค่เรื่องมโน

การปลดบอร์ดผู้ว่า ปตท. ที่เคยๆ เห็นกันมาในอดีตแล้วมโนไปเยอะ สรุปว่า ทำไม่ได้ เพราะ ปตท. ถือว่าเป็นรัฐวิสาหกิจที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ การจะทำต้องผ่านมติผู้ถือหุ้นทุกส่วนก่อน และ ถ้าใช้กฎหมาย ม.44 ในการกระทำเช่นนี้นั้น จะกระทบต่อความเชื่อมั่นนักลงทุนในตลาดหุ้นมาก


ซึ่ง สอดคล้องกับ การที่เคยมีการชี้แจงมาก่อนหน้านี้



ประธานสหพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจแห่งประเทศไทยและประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ บมจ.ปตท.แจง กระแสข่าวปลดประธานกรรมการฯ หรือกรรมการฯ บางคนในสังคมออนไลน์ในขณะนี้เป็นเพียงข่าวลือ

นางอัปสร กฤษณะสมิต ประธานสหพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจแห่งประเทศไทย(สพร.ท) และประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ บมจ.ปตท.(PTT)(สร.ปตท.) ชี้แจงว่า กระแสข่าวปลดประธานกรรมการฯ หรือกรรมการฯ บางคนในสังคมออนไลน์ในขณะนี้เป็นเพียงข่าวลือเท่านั้น

"ขอเรียนว่า ปตท.เป็นบริษัทมหาชน ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ดังนั้นการปลดกรรมการบางคนหรือทั้งคณะจะต้องอาศัยมติที่ประชุมผู้ถือหุ้น และการขอมติที่ประชุมผู้ถือหุ้นก็ต้องเรียกประชุมผู้ถือหุ้นตามกฎหมาย และข้อบังคับบริษัทก่อน ซึ่งต้องใช้เวลาค่ะ ดังนั้นข่าวที่ปล่อยในสังคมออนไลน์ในขณะนี้จึงไม่เป็นความจริง" นางอัปสร กล่าว

นางอัปสร กล่าวว่า ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) อาศัยตามอำนาจของกฎอัยการศึก ประชาชน พลเมืองไทย กรุณาพิจารณาให้รอบคอบ โดยเฉพาะเรื่องการฏิบัติในสังคมออนไลน์เรื่องการโพสต์ข้อความหรือส่งต่อข้อความ ดังนั้นพี่น้องทุกคน โดยเฉพาะกรรมการสหภาพแรงงาน ข้าราชการ องค์การของนายจ้าง ลูกจ้าง ผู้นำองค์กรต่างๆ ควรพึงระมัดระวังอย่างยิ่ง และกรุณาตรวจสอบข่าวให้รอบคอบภายใต้สถานการณ์บ้านเมืองเช่นนี้

หากท่านต้องการโพสต์ต่อข้อความที่ส่งต่อๆ กันขอให้ตรวจสอบก่อน และจะต้องเป็นข้อมูลเพื่อนำมาซึ่งความสงบเท่านั้น เพื่อให้การกระทำไม่เป็นเรื่องที่ขัดต่อความสงบเรียบร้อย สภาวะเช่นนี้ควรหยุดนิ่งการแสดงความเห็นแบ่งฝ่ายให้แตกความสามัคคีในหมู่คนไทยด้วยกัน หากท่านพร้อมที่จะดำเนินการเพื่อเป้าหมายสูงสุดของพลเมืองดี คือการนำมาเพื่อความสงบและความมั่นคงของประเทศชาติให้กลับสู่สภาวะปกติโดยเร็ว ขอวิงวอนทุกท่าน ยุติการส่งต่อข้อความหรือการแสดงความคิดเห็นในทางเกลียดชัง มุ่งร้ายผู้ใด ปล่อยให้กระบวนการของฝ่ายปกครองได้ทำหน้าที่ตามสิทธิและหน้าที่ตามกฎหมาย ซึ่งย่อมนำมาซึ่งประโยชน์ของประเทศชาติ