ศาลอุทธรณ์ พิพากษาจำคุกนายศรัลย์ ธนากรภักดี เจ้าของ Facebook “ทวงคืนพลังงานไทย” ด้วยเหตุผลต่อไปนี้

เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2559 ศาลอุทธรณ์พิพากษาจำคุกนายศรัลย์ ธนากรภักดี เจ้าของ facebook “ทวงคืนพลังงานไทย”และอื่นๆ เป็นเวลา 9 เดือน รอลงอาญา 2 ปี จากที่นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ฟ้องร้องเมื่อ 17 เมษายน 2557 และเพื่อให้จำเลยหลาบจำ จึงให้ลงโทษปรับจำเลยอีกจำนวน 30,000 บาท




--------------------------------------------------------------------------------------------

นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ได้ยื่นฟ้องนายศรัลย์ ธนากรภักดี เจ้าของ facebook ทวงคืนพลังงานไทยและอื่นๆ ต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ ตามคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ.1026/2557 เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2557 (ซึ่งเป็นช่วงที่นายปิยสวัสดิ์ฯ ยังไม่ได้มาดำรงตำแหน่งกรรมการ ปตท.) ว่าจำเลยมีความผิดฐานนำเข้าข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 และมีความผิดตามประมวลกฏหมายอาญาฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย

ศาลมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 29 กันยายน 2558 ลงโทษจำคุกจำเลย 1 ปี แต่จำเลยให้การเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา จึงพิพากษาลดโทษ ลง 1 ใน 4 เหลือลงโทษจำคุก 9 เดือนไม่รอลงอาญา สรุปผลการพิพากษาได้ดังนี้
1.จำเลยมีความผิดฐานนำเข้าข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จตาม มาตรา 14(1) (5) ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย
2. จำเลยกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาตามมาตรา 328 ประมวลกฎหมายอาญา โดยข้อความที่จำเลยโพสต์ทำให้คนอื่นเข้าใจว่าโจทก์ประพฤติชั่วหรือทุจริตในหน้าที่การงาน และมุ่งประสงค์ให้ร้ายทำลายชื่อเสียงของโจทก์ โดยจำเลยซึ่งสำเร็จการศึกษาระดับสูงและประกอบอาชีพเป็นถึงวิศวกรควรจะพิจารณาข้อเท็จจริงทั้งหมดเสียก่อน จึงไม่ใช่การแสดงความเห็นหรือข้อความโดยสุจริต จำเลยไม่อาจอ้างเหตุยกเว้นความรับผิดตามมาตรา 329 (3) ประมวลกฎหมายอาญาเพื่อปฏิเสธความผิดได้

จำเลยอุทธรณ์และเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2559 ศาลได้อ่านคำอุทธรณ์คดีปิยสวัสดิ์ฟ้องศรัลย์ โดยมีรายละเอียดส่วนหนึ่ง ดังนี้

“คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของนายศรัลย์ว่าเป็นความผิดตามฟ้องหรือไม่ ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า ข้อความที่มีการโพสต์และแชร์ในเพจ “ทวงคืนพลังงานไทย” เกี่ยวข้องกับการกระทำและพฤติกรรมของคุณปิยสวัสดิ์ ซึ่งนายศรัลย์โพสต์และแชร์ข้อความที่มีลักษณะเป็นการยืนยันข้อเท็จจริงที่ล่วงละเมิดสิทธิของคุณปิยสวัสดิ์ ประกอบกับเมื่อพิจารณารวมภาพถ่ายของคุณปิยสวัสดิ์และคุณอานิกมาประกอบกันแล้ว วิญญูชนโดยทั่วไปย่อมเข้าใจความหมายว่าคุณปิยสวัสดิ์และคุณอานิกฯเป็นคนไม่ดี มีพฤติกรรมชั่วร้าย สร้างความเสียหายให้บ้านเมือง ดังนั้นข้อความที่นายศรัลย์ฯ นำเข้าในเฟสบุ๊ครวมภาพถ่ายของคุณปิยสวัสดิ์ดังกล่าวจึงทำให้โจทก์เสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น และถูกเกลียดชัง การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

ส่วนที่นายศรัลย์ได้อุทธรณ์ว่าเป็นการติชม วิพากษ์วิจารณ์โดยสุจริตนั้น ศาลอุทธรณ์ได้พิจารณาว่าการใช้สิทธิเสรีภาพดังกล่าวต้องไม่กระทบถึงสิทธิส่วนบุคคลในครอบครัว เกียรติยศ ชื่อเสียง หรือความเป็นอยู่ส่วนตัวของคุณปิยสวัสดิ์และบุคคลในครอบครัวที่จะต้องได้รับความคุ้มครองด้วย มิใช่ว่านายศรัลย์จะแสดงความคิดเห็นอย่างไรก็ได้โดยไม่มีขอบเขต เมื่อการกระทำของจำเลยตามฟ้องทำให้คุณปิยสวัสดิ์เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น และถูกเกลียดชังก็ย่อมเป็นความผิดตามที่ศาลชั้นต้นได้พิพากษา”

แต่เมื่อไม่ปรากฎว่านายศรัลย์ฯ ได้รับโทษจำคุกมาก่อน ประกอบกับมูลเหตุของการกระทำผิดเกิดจากความคิดเห็นที่แตกต่างกันในเรื่องนโยบายพลังงานแห่งชาติ และตามพฤติการณ์แห่งคดีไม่ทำให้คุณปิยสวัสดิ์เสียหายมาก ที่ศาลชั้นต้นลงโทษจำคุกโดยไม่รอการลงโทษให้แก่นายศรัลย์นั้นหนักเกินไป จึงเห็นสมควรรอการลงโทษให้แก่นายศรัลย์ แต่เพื่อให้นายศรัลย์หลาบจำเห็นสมควรลงโทษปรับจำเลยอีกสถานหนึ่ง

พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ลงโทษปรับนายศรัลย์ 40,000 บาท อีกสถานหนึ่ง ลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 จำนวนหนึ่งในสี่แล้ว คงปรับ 30,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปีนับแต่วันที่อ่านคำพิพากษาให้นายศรัลย์ฟัง...”

ที่มา ศาลอุทธรณ์พิพากษาจำคุกนายศรัลย์ ธนากรภักดี เจ้าของ facebook “ทวงคืนพลังงานไทย”และอื่นๆ เป็นเวลา 9 เดือน รอลงอาญา 2 ปี จากที่นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ฟ้องร้องเมื่อ 17 เมษายน 2557 และเพื่อให้จำเลยหลาบจำ จึงให้ลงโทษปรับจำเลยอีกจำนวน 30,000 บาท